เมื่อพูดถึงนิยายแฟนตาซีระดับท๊อปแล้ว นักเขียนอย่าง J.K. Rowling, China Miéville, Ursula K Le Guin, Robert Jordan และ Brandon Sanderson เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้นในกลุ่มของนักเขียนแนวนี้ที่กว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ นิยายแฟนตาซีเหล่านี้ยืนอยู่บนขอบเขตแห่งความเป็นไปได้ของจินตนาการไม่รู้จบ
เมื่อผมได้อ่านนิยายแนวนี้จำนวนมาก ผมมักรู้สึกว่าตนเองได้เข้าไปอยู่ในโลกคู่ขนานอีกใบหนึ่ง อีกจักรวาลหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นด้วยหยดหมึก และเสริมแต่งจินตนาการในแบบที่เป็นไปได้ไม่รู้จบ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้พบเจอโลกใหม่ มันก็เหมือนกับการขุดพบฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ก็ไม่ปาน
ถึงกระนั้นก็มีโลกจักรวาลในนิยายแฟนตาซีเพียงไม่กี่เรื่องที่เข้าท่า
1. Akaran จาก The Star-Touched Queen โดย Roshani Chokshi
จากตำนานเทพนิยายในศาสนาฮินดู Akaran เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบในการสร้างภาพใหม่ของ Hades (เทพเจ้าโลกบาดาลของกรีก) และ Persephone (ราชินีแห่งโลกบาดาล ภรรยาเฮดีส) นี่เป็นโลกที่เต็มไปด้วยสีสัน มีตลาดกลางคืนขนาดใหญ่ให้เดินเที่ยว มีสิ่งมีชีวิตน่าพิศวงในโลกภายนอก ผลไม้สีรุ้ง และกระดูดเพิ่มเสน่ห์ และฝันกลางวัน
ยิ่งกว่านั้น พระราชวัง Akaran ยังเป็นสถานที่ซุกซ่อนความลับนับไม่ถ้วนในห้องที่ถูกล็อคเอาไว้ และม้าปีศาจกินเนื้อที่คุณไม่มีวันอยากพบเจอเป็นแน่
2. Arda จาก The Lord of the Rings และผลงานอื่น ๆ ของ JRR Tolkien
ในบรรดาโลกทั้งหมดของโทลคีน มิดเดิ้ลเอิร์ธ (The Middle-earth) เป็นเพียงส่วนเดียวของ Arda ที่เรารู้จักในนิยายของโทลคีน Arda เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลวิทยาขนาดใหญ่ ไม่เพียงแต่จะมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ผู้คนมากมายแล้ว โทลคีนยังได้ประดิษฐ์ภาษาีของตนเองขึ้นมาอีกด้วย แม้จะไม่มีศิลาจารึกเอาไว้ก็ตาม
3. Eretz จาก Daughter of Smoke and Bone โดย Laini Taylor
Eretz เป็นโลกที่หลบซ่อนจากสายตามนุษย์ ซึ่งถูกทำลายโดยสงครามระหว่างคิเมร่า (สัตว์ในปกรณัมกรีก ส่วนหัวถึงหน้าอกเป็นสิงโต ลำตัวเป็นแพะ บั้นท้ายเป็นมังกรหรืองู นอกจากนี้ ยังสามารถพ่นไฟได้เหมือนมังกร) และเซราฟิม (ฑูตสวรรค์ มีหกปีก) ผู้เขียนได้ปลุกวิญญาณของสงครามโลกให้ขึ้นมาโลดแล่นอีกครั้งผ่านความขัดแย้งและสงครามระหว่างเทวดาและปีศาจ
4. Erilea, จาก Throne of Glass (ในชื่อภาษาไทย เล่ม 1 "ราชินีแห่งตวามตาย") โดย Sarah J Maas
แทนที่จะโลดแล่นอยู่ในยุคกลางเฉกเช่นที่นักเขียนแฟนตาซีคนอื่น ๆ ชอบใช้กัน ผู้เขียนกลับสร้างบัลลังก์แก้วของเขาในโลกศตวรรษที่ 18 เมือง Rifthold เมืองหลวงของประเทศ Adarian เป็นเมืองที่งดงามทว่าซ่อนเร้นไปด้วยอาชญากรรมและสิ่งชั่วร้ายมากมาย
Mass ยังคงขยายเรื่องราวของเธออกไปไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกเล่มใหม่ของซีรี่ย์เรื่องนี้
5. Filigree Street, จาก The Watchmaker of Filigree Street โดย Natasha Pulley
เรื่องดำเนินอยู่ในกลางมหานครลอนดอนและเมืองอ็อกฟอร์ด ผสมผสานกับญี่ปุ่นยุคเมจิ คุณจะไม่พบถนนแบบ Filigree บนสถานที่แห่งใดในโลกนี้ มีการบรรยายวิถีชีวิตของยุควิคตอเรียน และเป็นแฟนตาซีแบบสตีมพังก์ที่มีการผสมผสานระหว่างเรื่องลี้ลับกับวิทยาศาสตร์
6. Herran จาก The Winner’s Curse โดย Marie Rutkoski
็Herran เป็นเมืองที่อยู่บนคาบสมุทรอันอุดมสมบูรณ์ มีเกราะป้องกันทางภูมิศาสตร์จำนวนมาก ก่อนที่จะถูกพิชิตโดยอาณาจักร Valoria -- อาณาจักรที่ไร้ความปราณีไม่ต่างจากอาณาจักรโรมโบราณ
เป็นเรื่องราวที่การดำเนินเต็มไปด้วยสงครามการเมืองและการค้า
7. The Known World, จาก A Game of Thrones โดย George RR Martin
โลกที่ทุกคนคุ้นเคยในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ ถึงแม้ว่าในเรื่องจะดำเนินอยู่บนเพียงทวีป Westeros และ Essos ซึ่งมีความเป็นมาที่ซับซ้อนในตัวของมันเอง แต่จินตนาการของมาร์ตินยังแผ่ไกลออกไปถึงอีกทวีปที่ยังมิได้มีการสำรวจคือ Sothoryos รวมถึงท่าเรือและความลึกลับของเกาะ Asshai และเกาะต่าง ๆ ที่พาดผ่านท้องทะเล ดั่งที่มาร์ตินได้อธิบายตนเองไว้ว่า เขานั้นเป็นสถาปนิกนักเขียน
8. London Below, จาก Neverwhere โดย Neil Gaiman
โลกใต้ดินของมหานครกรุงลอนดอน ดินแดนที่อยู่ภายในท่อน้พและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน โลกที่มีสัตว์ประหลาดและสิ่งมีชีวิตพิศวงมากมาย
9. Lormere, จาก The Sin Eater’s Daughter โดย Melinda Salisbury
Lormere เป็นหนึ่งในสามดินแดนที่มีความแตกต่างกันในไตรภาค The Sin Eater’s Daughter
Lormere เป็นราชอาณาจักรที่มีรูปร่างหน้าตาตามรูปแบบประเพณีและศาสนา อยู่ภายใต้การปกครองของราชินี Helewys
ผู้เขียนทำให้โลกเปลี่ยนแปลงด้วยนวัตกรรมในการเล่นแร่แปรธาตุ โกเลม และโพชั่น (ประมาณพวกยาบำรุง HP/MP)
10. Miraji, จาก Rebel of the Sands โดย Alwyn Hamilton
เกิดจากการผสมผสานของป่าตะวันตกกับหนึ่งพันและหนึ่งคืน
Miraji เป็นประเทศแห่งทะเลทราบที่อุดมไปด้วยเลือดและทราย มีเมืองร้าง โรงงานผลิตอาวุธ เด็กครึ่งมนุษย์
เรื่องดำเนินไปในเหตุสงครามศาสนาที่เกิดขึ้นระหว่างสองเผ่า
ที่มา: the guardian
Comments