หากว่าใครตั้งใจที่จะหาหนังสือนิยายแฟนตาซีผจญภัย การต่อสู้ มีปีศาจ และเวทมนตร์อ่านล่ะก็ ผมขอให้คุณข้ามเรื่องนี้ไปซะ ถึงแม้ว่า Diana Wynne Jones (ผู้เขียน) จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีนิยายแฟนตาซีก็ตามที หรืออ่านคำโปรยของเรื่องแล้วคิดว่ามันต้องสนุกแบบแฮร์รี่ พอตเตอร์แน่ ๆ ผมคงต้องขอให้คุณหยิบนิยายแฟนตาซีเรื่องอื่นมาอ่านเช่นกัน
"Dogsbody" หรือชื่อภาษาไทยคือ "ดาวสุนัข" เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับดาวฤกษ์ที่ชื่อ ซิริอุส (หรือ ดาวหมาใหญ่ หรือที่เรามักจะคุ้นในชื่อ ซีเรียส จากแฮร์รี่ พอตเตอร์) ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฆาตกรรมที่เขาไม่ได้ทำ โทษของเขาคือ ต้องไปใช้ชีวิตบนโลกในฐานะสุนัขจนกว่าเขาจะสามารถปฏิบัติภารกิจที่ดูเหมือนไม่น่าเป็นไปได้สำเร็จ นั่นคือการค้นหาอาวุธที่มีชื่อเรียกว่า โซอี้
คุณจะไม่ได้เห็นสงครามระหว่างดวงดาวอย่างที่หวัง ความจริงแล้วมันเป็นการผสมปนเปจากหลาย ๆ อย่างเข้าด้วยกันเสียมากกว่า เนื้อเรื่องกว่า 60% เกี่ยวกับการเจริญเติบโตและดำเนินชีวิตของสุนัขหนึ่งตัวในช่วงเวลาหนึ่งปี คนที่รักสุนัขน่าจะมีความสุขที่ได้อ่าน (เฉกเช่น วรรธนา วงษ์ฉัตร ผู้แปลที่รักสุนัขเป็นชีวิตจิตใจ) แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่ได้รักสุนัขจะอ่านไม่สนุก เพราะเนื้อหาส่วนที่กล่าวนั้นคือการปูพื้นให้เราได้ทำความรู้จักกับตัวละครได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ซิริอุส (ในร่างสุนัข), แคทลีน (เด็กหญิงใจดีผู้รับซิริอุสมาเลี้ยง), ครอบครัวดัฟฟิลด์ และมิสซิสสมิท
สิ่งที่ Dogsbody นำเสนอก็คือ ความรักระหว่างเด็กผู้หญิง (แคทลีน) และสุนัขของเธอ (ซึ่งก็คือ ซิริอุส) ที่ทั้งคู่มีต่อกัน ความสัมพันธ์นี้ส่งผลต่อความคิดของเราไปจนถึงตอนจบของเรื่อง Diana Wynne Jones ถ่ายทอดมุมมองความคิดของสุนัขได้เป็นอย่างดี ทำให้เรามองเห็นว่า มันคิดอย่างไรกับเรา และคนเราคิดเช่นไรกับสัตว์เลี้ยง
อีกสิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดก็คือ การเติบโตขึ้นของตัวละคร และแง่มุมของคำถามที่ว่า "หากเราผู้ซึ่งเคยเป็นคนสำคัญหรือยิ่งใหญ่ กลับกลายมาเป็นคนธรรมดาแล้ว เราจะทำเช่นไร"จนท้ายที่สุด หนังสือเล่มนี้ก็กลับมาถามเราอีกครั้งว่า "หากคุณต้องสูญเสียทุกอย่างที่คุณมีหรือเลือกที่จะอยู่กับความสุขเล็ก ๆ กับชีวิตใหม่ที่คุณค้นพบ คุณจะเลือกอะไร"
ถึงแม้เรื่องนี้จะพูดถึงความสัมพันธ์ของคนและสัตว์เลี้ยงเป็นใหญ่ แต่อย่าลืมว่าสเกลของเรื่องนี้อยู่ในระดับ "จักรวาล!"
ในช่วงแรกผมค่อนข้างมีปัญหากับการจินตนาการถึง "ดาวฤกษ์" พอสมควรว่ามีรูปลักษณ์เป็นอย่างไร เพราะ "ดาวฤกษ์" ของเรื่องนี้มีชีวิตและสามารถคุยกันได้ ซ้ำยังเดินทางลงยังโลกได้อีกด้วย และดาราจักรก็มีการปกครองในระดับจักรวาลวิทยา ทั้งยังมีการตัดสินพิพากษาความผิด ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ผมก็เห็นภาพ เมื่อได้รับรู้ถึงฉากของดาวฤกษ์ที่จำแลงลงมาบนโลกในร่างมนุษย์ คลับคล้ายคลับคลา Hugo: The Living Planet จาก Guardian of the Galaxy ของ Marvel ก็ไม่ปาน
นอกจากนี้ยังมีพระอาทิตย์ที่เรื่องนี้เรียกว่า "โซล" ก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ค่อนข้างจินตนาการยากเช่นกัน
หากนักอ่านคอนิยายแฟนตาซีท่านใดหวังว่าจะได้เห็นฉากการต่อสู้ของ "ดาวฤกษ์" นอกเหนือจากเรื่องราวเด็กผู้หญิงกับสุนัขแล้ว ก็มีปรากฏให้เห็นเป็นย่อหน้าสั้น ๆ ในเรื่องอยู่ แต่เป็นการต่อสู้ของดาวฤกษ์กับสุนัขนะ
นีล เกย์แมน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่รักและชื่นชอบหนังสือเล่มนี้มากได้ให้คำแนะนำหนึ่งถึงหนังสือเล่มนี้ว่า "อย่าอ่านบทนำของเรื่องก่อน ถ้าอ่านมันครั้งแรก"
เมื่อเราได้อ่านเรื่องนี้จนถึงบทสุดท้าย ดูเหมือนเนื้อความของมันจะทำให้เราเข้าใจสิ้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบทนำและบทแรกว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และตัวละครทำไมถึงทำเช่นนี้ มันตอบคำถามของเรา แต่ไม่ได้สรุปความให้เรา เพราะเราจะต้องตอบคำถามตัวเอง
หาหนังสือเล่มนี้อ่านได้ที่ : Dogsbody
Comments