top of page

[Review]"แสบ" - แสบทั้งตา หน้า และอก

ผมไม่รู้สึกว่าผมเป็นประเด็นอีกต่อไป

ผมรู้สึกว่าผมเป็นเพียงเสียงประทัดนัดแรก

ประทัดที่แจ้งการเริ่มต้นรบ

และหลังจากนั้น...

หลังจากนั้นผมรู้สึกเหมือนผม...

เหมือนผมเป็นเพียงแค่...สมรภูมิรบ

 

หนังสือ: แสบ (Danger ous mind)

ผู้เขียน: โหวเหวินหย่ง

ครั้งแรกที่ผมได้รับโจทย์วิจารณ์หนังสือเล่มนี้มา ปกกลางๆ พร้อมโลโก้รางวัล Taiwan Best Seller Public Novel ทำให้ผมไพล่นึกไปว่า นี่เป็นหนังสือดีๆที่เหมาะกับเด็กแน่นอน พลิกไปพลิกมาอ่านคำโปรยที่อยู่ด้านหลัง เรื่องราวเกี่ยวกับ เซี่ยเจิ้งเจี๋ย (ในเรื่อง และหลังจากนี้เป็นต้นไปจะขออนุญาตเรียกว่า เสี่ยวเจี๋ย) เด็กชายคนหนึ่งที่อยู่ชั้นมัธยมปีที่ 3 และกำลังจะถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตคือการสอบโอเน็ต เข้าไปพัวพันกับปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียวก่อให้เกิดปัญหาระดับชาติ

นี่คงเป็นหนังสือสำหรับเด็ก ... ที่ดีเล่มหนึ่งแน่นอน

สามสี่หน้าแรกทำเอาผมต้องหยุดอ่าน แล้ววางมันลงก่อน ไม่ใช่เพราะไม่สนุกนะ แต่เพราะมันตลกมาก ตลกมากเสียจนผมต้องหยุดพักก่อน ไม่ไหวจริงๆ หัวเราะจนปวดท้องเมื่อยกราม อารัมภบทของหนังสือเพียงแค่ไม่กี่ย่อหน้า ดึงความทรงจำมัธยมต้นต่อปลายของผมหมดกระบิขึ้นมาลอยฟุ้งกลางอากาศเต็มไปหมด มุกตลกที่คนวัย 1980-1990 เข้าใจปะเต็มไปหมดในบทสนทนาและบทบรรยาย ความสมจริงของอารมณ์ตัวละคร ครอบครัว บริบทของสังคม จัดได้ว่าเยี่ยมจนหาที่ติไม่ได้

แต่เมื่ออ่านเรื่องราวไปเรื่อยๆ รอยยิ้มค่อยๆหายไปจากหน้าผม เสียงหัวเราะเงียบไปก่อนหน้านั้นสักพักแล้ว ผมเริ่มหายใจเข้าลำบาก และถอนหายใจบ่อยครั้งมากขึ้น หลายครั้งที่อ่านๆ แล้วก็วาง เพราะรู้สึกเจ็บปวดกับความจริงที่นำเสนอในเล่มนี้จนเจ็บที่ตาไม่สามารถอ่านต่อได้

จวบจนกระทั่งอ่านจบ ... ผมได้ข้อสรุปอย่างหนึ่งว่า

 

“แสบ” เป็นหนังสือเกี่ยวกับ “เด็ก” ที่เขียนให้ “ผู้ใหญ่” อย่างเราๆได้อ่านกัน

 

เสี่ยวเจี๋ย เริ่มต้นปัญหาเพียงแค่อ่านหนังสือการ์ตูนในห้องเรียน แล้วครูตัดสินว่าหนังสือนี้เป็นหนังสือการ์ตูนลามก เพราะบนหน้าปกเขียนว่า “หนังสือควบคุม” ก่อลามไปจนถึงการทำโทษ แม้เสี่ยวเจี๋ยจะไม่รู้สึกอะไร ก็ยอมรับการโดนทำโทษไป แต่คนที่กลับทนไม่ได้คือ เพื่อน แม่เพื่อน แม่เพื่อนไปฟ้องแม่เสี่ยวเจี๋ย แม่เสี่ยวเจี๋ยทนไม่ได้ เม้ากับเพื่อนนักข่าว เพื่อนนักข่าวทนไม่ได้ เขียนข่าว ทางโรงเรียนรับไม่ได้ เรียกประชุม นู่น นี่ นั่น

สุดท้ายเรื่องราวใหญ่โตลุกลามไปจนกระทั่งเป็นไฟ เผาไหม้ระบบการปฏิรูปการศึกษา กระทรวงการศึกษา กลายคนผู้ใหญ่ทั้งหลายแหล่ในเรื่องต่อสู้กันจะเป็นจะตาย จนลืมไปเลยว่าจริงๆแล้วต้นเหตุมาจากการ์ตูนหนึ่งเล่มหนึ่งเท่านั้น

โหวเหวินหย่ง ผู้แต่ง มีอาชีพแพทย์ด้วย และเป็น blogger นักเล่าเรื่องบนอินเตอร์เน็ท มีผลงานเขียนออกมาก่อนหน้านี้แล้วบ้าง จงใจหยิบประเด็นน้ำผึ้งหยดเดียวแบบชนวนเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 1 มาห่อไว้ด้วยภาพความวุ่นวายของการปฏิรูปการศึกษาในประเทศไต้หวัน การสงคราม และการศึกษา ฟังดูแล้วเป็นสองเรื่องที่ห่างไกล เกือบตรงกันข้าม แต่ผู้เขียนกลับทำได้ดีจนแนบเนียน อ่านครั้งแรกจบผมไม่รู้เลยนะว่าเขาจงใจทำให้มันคล้ายสงครามโลกครั้งที่ 1 จนอ่านรอบสองนั่นล่ะถึงได้รู้สึก

หากเป็นนิยายทั่วไป เด็กดี เข้าไปพัวพันกับเรื่องไม่ดี จนถูกมองว่าร้าย สุดท้ายก็จะได้รับการพิสูจน์ความจริง และกลับมาสู่สังคมดีๆ มีคนยอมรับเช่นเดิม แต่นั่นมันคือนิยายทั่วไป โหวเหวินหย่ง ไม่ได้นำเสนอ “แสบ” ในแนวทางนั้นสักเท่าไหร่ (ผมหมายถึงมีบ้างนะ แต่ไม่เยอะหรอก) เขานำเสนอความจริง บางครั้งผมรู้สึกว่าจริงเกินไปด้วยซ้ำ

ประเทศไต้หวันมีระบบการศึกษา และสังคมวัฒนธรรมทางการศึกษาแทบไม่หนีจากบ้านเราเท่าไรนัก ต่างกันก็ตรงที่ของเขารุนแรงกว่า เอาเป็นเอาตายมากกว่า การปฏิรูปการศึกษาที่นำเสนอในหนังสือเล่มนี้ หลงทางไปมาไม่ต่างกับบ้านเรา แปลกดีที่ผมก็อ่านข่าวปฏิรูปการศึกษาในบ้านเราเยอะนะ แต่ไม่ยักกะรู้สึกถึง “ปัญหาที่ตกลงมากระทบเด็ก” มากเท่ากับที่หนังสือหนา 381 หน้านี้นำเสนอ ถ้าให้พื้นที่ผมพูดตรง ๆ นะ หนังสือเล่มนี้นำเสนอได้ดีกว่าข่าวใด ๆ เกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาที่นำเสนอในบ้านเราทั้งหมดทั้งสิ้น

ถ้าจะมีข้อบกพร่องในหนังสือเล่มนี้บ้าง .... ก็คงจะเป็นเรื่องของความยาว เนื้อเรื่องมีความยืดเยื้อเกินไปจนบางครั้งก็เบื่อได้ แต่นั่นล่ะ ปัญหาและสงครามมันก็เทือกนั้นเช่นกัน ผมคิดว่าความยาวและยืดเยื้อเป็นเจตนาของคุณหมอโหวเหวินหย่ง ที่จงใจทำให้มันเป็นอย่างนั้น ดังนั้นหากจะนับเป็นความบกพร่องอย่างหนึ่งแล้ว ก็ควรนับแต้มให้มันเป็นวรรณศิลป์ส่วนตัวอย่างแยบยลของผู้แต่งด้วย

“แสบ” ให้ความรู้สึกแสบทั้งตา หน้า และในอก อย่างที่ชื่อหนังสือบอกไว้ไม่ผิดเพี้ยน ผมอยากให้ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ผู้ใหญ่ที่มีลูกแล้ว หรือผู้ใหญ่ที่ใกล้แก่ได้อ่านจริงๆ เพราะมันไม่ได้นำเสนอด้านดีของสิ่งที่พวกเรา ผู้ใหญ่ทำต่อเด็กเลย

ตรงกันข้าม...

มันนำเสนอแต่ด้าน แสบๆ

CODE ส่วนลด 15% สำหรับเจ๊หมอ: PAT

อ่าน "แสบ" ได้ที่ : paperyard.co/product-page/9786169258018

Comentarios


bottom of page