ดร.ลอร่า โมเร็ตติจากคณะศึกษาเอเชียและตะวันออกกลางจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ได้พบหนังสือภาพสำหรับเด็กที่มีอายุย้อนกลับไปถึงปี 1766 ภายใต้ชื่อเรื่องว่า "อิเสะ ฟุริว : อุตะกะรุตะ โนะ ฮะจิมะริ (Ise fūryū: Utagaruta no hajimari)"
StartFragment
สำเนาที่อยู่ในหอสมุดแห่งชาติอังกฤษเป็นเพียงส่วนหนึ่งของของสะสมของเซอร์เออร์เนส ซานโตว์--นักวิชาการและนักการฑูตชาวอังกฤษในศตวรรษที่ 19 เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือภาพที่ชื่อ Ise Monogatari (นิทานของอิเสะ) ทั้งนี้ มันเป็นผลงานชิ้นที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งในวรรณคดีญี่ปุ่น และต้นฉบับจริง ๆ ของมันนั้นเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 9 มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก มิตรภาพ และการเดินทาง
Tales of Ise ได้รับการดัดแปลงและตีความใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งยังนับเป็นส่วนหนึ่งของหลักการสำหรับวรรณกรรมญี่ปุ่นจวบจนทุกวันนี้
ดร.โมเร็ตติกล่าวว่า "เราสามารถเปรียบ Tales of Ise ได้ในระดับเดียวกับงานของเช็คสเปียร์เลยก็ว่าได้ในฐานต้นแบบของงานวรรณกรรมญี่ปุ่น" และเนื้อหาที่เธอพบนั้นเปรียบได้กับชิ้นส่วนที่หายไปของหนังสือเรื่องนี้
การตีพิมพ์ Tales of Ise ในปี 1766 ทำให้เราเข้าใจประวัติศาสตร์ที่มาของการทำงานมากขึ้น เราได้ค้นพบว่า ผู้จัดพิมพ์มีจุดประสงค์เพื่อให้เยาวชนได้อ่าน ดูได้จากภาพประกอบ หรือคำศัพท์ที่อ่านออกเสียงได้ไม่ยาก นอกจากนี้เนื้อความยังถูกย่อให้สั้นกระจบ สามารถอ่านได้โดยง่าย จึงไปแปลกที่ Tales of Ise จะได้รับการยอมรับทั้งในแง่ของคุณภาพและความสวยงามของบทกวี
ในตอนนี้หลังจากผ่านไปหลายปี ได้มีการเจรจาต่อรองถึงสิทธิ์ในดารใช้งานสำเนาของหนังสือเล่มนี้ที่ยังหลงเหลืออยู่อีกสองฉบับ (ฉบับหนึ่งอยู่ในสถาบันวรรณคดีแห่งชาติญี่ปุ่น และอีกฉบับหนึ่งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Gotoh และในสำเนาที่อยู่ในหอสมุดอังกฤษอีกหนึ่ง) เพื่อที่จะได้นำไปแปล คีความ และศึกษา นี่จะเป็นครั้งแรกที่นักอ่านจะได้ทราบเรื่องราวที่สนุกสนานมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากเวลาผ่านมานานกว่า 250 ปี นับตั้งแต่ตีพิมพ์ครั้งแรก
Utagaruta no hajimari เป็นหนังสือภาพที่พยายามดึงเด็ก ๆ ให้เข้าสู่โลกของผู้ใหญ่อย่างเหมาะสม แทนที่จะนำเสนอพวกเขาด้วยสื่อสำหรับผู้ใหญ่ของญี่ปุ่น (อย่างที่คุณก็รู้กันดี)
หนังสือภาพในยุคแรก ๆ ของญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมาจากการดัดแปลงวรรณคดีที่ได้รับการยอมรับเป็นจำนวนมาก การศึกษาวิจัยสิ่งนี้จะเป็นขั้นตอนแรกในการวางรากฐานสำหรับสาขาวิชานี้ หากพัฒนามันอย่างเหมาะสมก็อาจจะเป็นมิติใหม่ของวรรณกรรมเยาวชน รวมถึงเป็นความก้าวหน้าในการทำความเข้าใจกับรูปแบบหนังสือภาพสมัยใหม่ของญี่ปุ่นว่ามีบทบาทต่อสังคมในปัจุจบันเช่นไร
ที่มา: University of Cambridge
EndFragment