- ผู้เขียน: Nikolai Gogol
- ผู้แปล: อติภพ ภัทรเดชไพศาล
- ออกแบบปก: Nuchacha Praphin
- สำนักพิมพ์: บทจร
- พิมพ์ครั้งที่ 1 — มกราคม 2565
- ISBN: 9786168250082
เรื่องสั้น โดย น.ว. โกกอล
“โกกอลคือกวีร้อยแก้วที่ประหลาดหาผู้ใดเปรียบที่สุดที่รัสเซียเคยให้กำเนิดมา”
- วลาดีมีร์ นาโบคอฟ
เรื่องราวของชีวิตหลากชาติหลายภาษาแห่งมหานครปีเตอร์บูร์ก ประกายผู้คนในแสงแดด สีสันของร้านรวง แม่ค้าขนมอบ บริกรเสิร์ฟอาหาร ช่างตัดผ้า นักค้าภาพ สาวสวยหมวกงาม ตำรวจเฝ้ายามริมสะพาน จิตรกรเตร็ดเตร่หาแรงบันดาลใจ กองกำลังยาตราในเครื่องแบบ เงาวูบไหว แสงตะเกียง โคมไฟยามค่ำ สตรีในงานเลี้ยง เวลาที่หลงเลือน ภาพฝันมอมเมา ปิศาจชวนผวา สิ่งซ่อนเร้นที่กลับปรากฏกาย
- รับบัตรเชิญสู่งานสังสรรค์พร้อมสาวงามยามค่ำคืนบน “ถนนเนียฟสกี”
- ตามหา “จมูก” ที่หายไปจากใบหน้าท่านนายพัน
- แลกเปลี่ยนความใคร่รู้เรื่องปิศาจใน “ภาพเหมือน”
- ชื่นชม “ชิเนล” ตัวใหม่ของที่ปรึกษาในนามตลอดกาล
- คุยโอ้อวดเรื่อง “โคลยาสกา” คันโก้
- ซุบซิบถึงเนื้อหาใน “บันทึกของคนบ้า”เชิญชวนนักอ่านที่รักมาทำความรู้จักกับปีเตอร์บูร์กในจินตนาการของนักเขียนเรืองนาม นิโคไล โกกอล โศกนาฏกรรมในเสียงขื่นขันของผู้คนแห่งสังคมนิยมชนชั้น ทั้งมีชีวิตชีวา ทั้งฉลเฉเสแสร้ง บนเส้นเลือนรางระหว่างโมงยามแห่งแสงสว่างและมืดมน
ฉบับพิมพ์นี้มีอะไรบ้าง
- แปลจากต้นฉบับภาษารัสเซีย
- ปกแข็ง หุ้มแจ็กเก็ต “ปีเตอร์บูร์กของโกกอล”
- อภิธานศัพท์ เกร็ดความรู้ และบทตาม ใต้ร่มเสื้อชิเนล : จักรวรรดิรัสเซียของโกกอล
- ช่วงสั่งซื้อล่วงหน้า โปสการ์ดปีเตอร์บูร์กและเสื้อคลุมของโกกอล 2 ลาย แกะออกใช้เป็นที่คั่นหนังสือได้---------------
แนะนำเรื่องสั้นทั้ง 6 เรื่อง
ถนนเนียฟสกี
"โชคชะตาได้มอบอาชาชั้นเลิศแก่ชายคนหนึ่ง และเขาก็ควบขี่มันไปอย่างไม่รู้สึกรู้สม ไม่เห็นความงามของมันเลยแม้แต่น้อย - ขณะที่อีกคนหนึ่ง ผู้ซึ่งในหัวใจคุโชนไปด้วยความรักในอาชาได้แต่เดินเท้าและพึงพอใจกับแค่การได้จิ๊ปากเมื่อเห็นม้าดีถูกขี่ผ่านไป"
ถนนเนียฟสกียามเช้าเปล่งประกายด้วยความงดงามแห่งชีวิต ผิดจากค่ำคืนที่ร่ายมนตร์สะกดพิศวงต่อสองชายหนุ่มในรูปลักษณ์สาวงามสองนาง หนึ่งชายประสบรักแรกพบในที่เสื่อมทราม หนึ่งหนุ่มต้องใจภรรยาชายอื่น เรื่องราวของสองชายที่สาดสีขาว-ดำลงบนความงดงาม ชวนตั้งคำถามต่อภาพลักษณ์ภายนอกที่เย้ายวนใจ
จมูก
"คนเราไม่มีจมูกแล้วมันจะเป็นบ้าอะไร ? เป็นนกก็ไม่ใช่ เป็นคนก็ไม่เชิง ไร้ค่าเสียจนโยนทิ้งออกไปนอกหน้าต่างยังได้เลย !"
จมูกหายไปจากใบหน้าท่านผู้พันหลังฝีมือโกนหนวดของช่างไร้สกุลในเช้าวันหนึ่ง มันร่อนเตร่ไปทั่วภายในชุดเครื่องแบบทหารชั้นยศสูงส่ง ผู้พันจำต้องเทียวตามรอยไปทุกที่ พร้อมกันก็มุดจมูกหนี (?) ด้วยความอับอายผู้คนไปด้วย เมื่อลงประกาศจมูกหายไม่ได้ จดหมายคำขู่จึงถูกส่งไปหาตัวการเรื่อง ทว่าจากนั้นไม่นานจมูกก็กลับมาหาเขาในสภาพสมบูรณ์ดีด้วยวิธีการประหลาดหลังเที่ยวเล่นไปมารอบเมือง เหตุการณ์เป็นที่โจษจันลือเลื่องไปทั่วแดน ท่านผู้พันจะแสดงสีหน้าเช่นไรเมื่อได้จมูกที่ยังต่อไม่ติดกลับคืน?
ภาพเหมือน
"สำหรับคนที่แต่งกายออกจากบ้านในชุดไปเที่ยวสีสันสดใส แค่โคลนหยดเดียวที่กระเซ็นจากล้อรถก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนซึ่งรายล้อมพากันชี้มือมายังเขาและนินทาว่าเป็นคนสกปรก ขณะที่คนกลุ่มเดียวกันนั้นจะไม่สังเกตเห็นรอยเลอะหลายรอยบนร่างคนผ่านทางคนอื่นที่สวมเสื้อผ้าแบบปกติธรรมดาเลย เพราะบนเสื้อผ้าธรรมดารอยเลอะนั้นย่อมไม่ปรากฏเห็นเด่นชัด"
ภาพเหมือนชายปริศนาปรากฏภาพดวงตาที่ดูคล้ายว่ามีชีวิตจริง ครั้นเป็นที่ต้องใจจิตรกรหนุ่มเปี่ยมพรสวรรค์ซุ่มซ่อนทว่าไร้ทรัพย์สินส่งเสริม ภาพจึงถูกนำกลับไปเพียงเพื่อให้จิตรกรพบปรากฏการณ์อัศจรรย์ที่พลิกเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล ชายปริศนาในภาพนำพามาซึ่งลาภยศสรรเสริญก็แต่เพียงหายนะ! เมื่อขุดค้นประวัติงานศิลป์ชิ้นดังกล่าว คำตอบอันไม่น่าอภิรมย์ของงานศิลปะเหมือนจริงที่สูงส่งก็กางแผ่ต่อหน้าทุกผู้ทุกนามที่ได้ยิน
ชิเนล
"หลังจากนั้นเขาก็ยังต้องตัวสั่นสะท้านอีกหลายๆ ครั้งในชีวิตเมื่อได้เห็นความไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ ในตัวมนุษย์ ได้เห็นว่าความหยาบช้าป่าเถื่อนนั้นซ่อนเร้นอยู่ในกิริยามารยาทงดงามละเอียดอ่อนได้อย่างไร"
เสื้อชิเนลตัวเก่าสภาพยับเยินจนไม่อาจแก้ไข พายุลมหนาวสาดซัดชอนไชผ่านทุกรอยขาด ที่ปรึกษาในนามตลอดกาลจำยอมเจียดเงินกินเงินใช้และเก็บออมเพื่อตัดชิเนลตัวใหม่ แต่มันกลับปลาสนาการไปภายในคืนแรกที่เขาได้เฉลิมฉลองมัน ข้าราชการชายจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อตามหามัน และเลือกดั้นด้นไปหาบุคคลสำคัญเพื่อเสาะหาชิ้นส่วนตัวตนจนตัวตาย
โคลยาสกา
"การเตรียมงานเลี้ยงนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก : เสียงสับมีดของพ่อครัวในครัวบ้านนายพลได้ยินไปจนถึงประตูเมือง ของทั้งตลาดถูกเหมาหมดเพื่องานเลี้ยงอาหารจนผู้พิพากษากับภรรยาสังฆานุกรของเขาต้องกินแต่ขนมปังแผ่นแบน"
ณ เมืองเล็กๆ นามว่า บ. มีงานเลี้ยงรื่นเริงร่ำรวยด้วยอาหารนานาชนิดด้วยความร่วมมือของบุคลากรกรมทหารม้าที่ย้ายมาประจำการใหม่ เหล่าทหารแสดงฝีมือเล่นไพ่ และฝีปากประจบประแจง หนึ่งในนั้นก็คือเจ้าที่ดินนายหนึ่งที่ถึงกับโวว่ามี “โคลยาสกา” คันโก้ใหญ่โตโอ่โถงต่อหน้าท่านนายพล รับปากจัดเลี้ยงอาหารและพาชมถึงบ้านตน แต่ราตรีกาลและแสงสีกลับฉุดรั้งเขาไว้จนดึกดื่น ครั้นถึงเวลาอวดโฉมยามเช้ากลับพบเพียงสิ่งพิลึกพิลั่นเสียนี่
บันทึกของคนบ้า
"บัลลังก์จะว่างได้อย่างไร? ว่ากันว่าดอนนาคนหนึ่งจะขึ้นนั่งบัลลังก์ แต่ดอนนานั่งบัลลังก์ไม่ได้นี่ มันไม่มีทางเป็นไปได้ คนนั่งบัลลังก์ต้องเป็นกษัตริย์เท่านั้น พวกเขาบอกว่าไม่มีกษัตริย์ - แต่มันเป็นไปไม่ได้นี่ที่จะไม่มีกษัตริย์ รัฐอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีกษัตริย์ กษัตริย์มีอยู่แน่ๆ แค่ว่าอยู่ที่ไหนไม่รู้ เป็นไปได้ว่าเขาอยู่ที่นั่นแหละ"
บันทึกที่ขึ้นต้นด้วยการระบายถ่ายความคับแค้นต่อผู้บังคับบัญชา จดจารความชื่นชมต่อท่านเจ้ากรม บรรยายรายละเอียดผ้าเช็ดหน้าผืนหอมที่ได้ดอมดมของลูกสาวท่าน ตามอ่านจดหมายตอบโต้ของสุนัขผู้ดีที่เล่าเรื่องถึงนายตนด้วยทักษะการเขียนล้ำเลิศ เปิดศักราชคนวิปลาสเมื่อข่าวกษัตริย์แห่งสเปนหายตัวไป เมื่อนักเขียนบันทึกสวมรอยเป็นกษัตริย์ที่หายตัวไปเสียเอง วันคืนบิดเบี้ยว ความปกติแปรเปลี่ยน ท้ายที่สุดแล้วกษัตริย์องค์ใหม่จะไปลงเอย ณ ที่แห่งใดกัน